รุดเต็งหามบอสใหม่PSV

รุดเต็งหามบอสใหม่PSV

ข่าวฟุตบอล รุด ฟาน นิสเตลรอย ตำนานกองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ถูกคาดหมายว่าจะก้าวมาเป็นเทรนเนอร์ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น คนใหม่ซึ่งจะนับการคุมทีมระดับซีเนียร์หนแรก ดูบอลสด 
รายงานจาก ‘อีดี’ฟาน นิสเตลรอย ปัจจุบันอายุ 45 ปีเพิ่งคุมทีม พีเอสวี สำรอง เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ส่วนสามซีซั่นก่อนนั้นคุมชุด ยู-18
ฟาน นิสเตลรอย ยังทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชในสตาฟฟ์ทีม ‘กังหันลมสีส้ม’ แต่ยังไม่มีประสบการณ์คุมทีมซีเนียร์
อย่างไรก็ตามอดีตโคตรดาวยิงมีพัฒนาการผลงานคุมทีมน่าพอใจ แล้วถูกสนับสนุนให้ขึ้นรับตำแหน่งต่อจากเทรนเนอร์ โรเจอร์ ชมิดท์ ที่จะลงจากเก้าอี้
ชมิดท์ ยืนยันลงจากเก้าอี้สิ้นฤดูกาล 2021-22 เพราะไม่สามารถตกลงต่อสัญญาใหม่ได้ ทั้งที่ผลงานทีมน่าพอใจอยู่ที่สอง เอเรดิวิซี่ เนเธอร์แลนด์ รองจาก อาแจ็กซ์ ส่วนรายการ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก เข้ารอบก่อนรองฯ
แม้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเจ้าตัวเพิ่งระบุว่ายังไม่พร้อมขึ้นเป็นเทรนเนอร์ชุดใหญ่ แต่เพราะการสนับสนุนจากบอร์ดและการยอมรับจากแข้งซีเนียร์ทำให้คนในอย่าง ฟาน นิสเตลรอย แต่งตัวรอประเดิมงานระดับซีเนียร์ โดยมี เฟร็ด รุทเท่น โค้ชมากประสบการณ์เป็นมือขวา
รุดเต็งหามบอสใหม่PSV

รุดเต็งหามบอสใหม่PSV

รุทเท่น วัย 59 ปีเคยคุม พีเอสวี ระหว่างปี 2009-2012, นั่งตำแหน่งผู้ช่วยในสโมสรก่อนนั้นอีกเป็น 10 ปี รวมถึงมีประสบการณ์คุมสโมสร อันเดอร์เลชท์ ในจูปิแลร์ลีก เบลเยียม
พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ: Premier League) หรือมักจะเรียกว่า พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นการแข่งขันฟุตบอลในระดับลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ โดยแข่งขันกัน 20 สโมสร มีระบบการตกชั้นไปสู่ อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ฤดูกาลการแข่งขันเริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงพฤษภาคม แต่ละทีมลงเล่นทั้งหมด 38 นัดจากการพบกันเหย้าและเยือน[1] โดยนัดการแข่งขันส่วนใหญ่มักจะแข่งขันในช่วงบ่ายวันเสาร์และวันอาทิตย์ (เวลาท้องถิ่น) ทายผลบอล 
การแข่งขันก่อตั้งในชื่อ เอฟเอพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 หลังการตัดสินใจของสโมสรใน ฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชัน ที่ต้องการจะแยกตัวออกจาก อิงกลิชฟุตบอลลีก ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1888 เพื่อรับผลประโยชน์จากข้อตกลงสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์[2] ข้อตกลงนั้นมีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านปอนด์ต่อปี ณ ฤดูกาล 2013–14 โดยมี สกายและบีทีกรุป ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสด 116 นัดและ 38 นัด ตามลำดับ[3] พรีเมียร์ลีกเป็นบริษัทที่สโมสรเป็นสมาชิกทำหน้าที่เป็นผู้ถือหุ้นและสร้างรายได้ 2.2 พันล้านยูโรต่อปี จากสิทธิ์การถ่ายทอดสดทั้งในประเทศและต่างประเทศ[4] สโมสรได้รับรายได้จากเงินส่วนกลางจำนวน 2.4 พันล้านปอนด์ในฤดูกาล 2016–1718 และอีก 343 ล้านปอนด์จ่ายให้กับสโมสรใน อิงกลิชฟุตบอลลีก (อีเอฟแอล)[5]
พรีเมียร์ลีกเป็นลีกกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก โดยมีการถ่ายทอดสดใน 212 ดินแดน ไปยังบ้าน 643 ล้านหลังและคาดว่ามีผู้ชมโทรทัศน์ 4.7 พันล้านคน[6][7] มีผู้ชมในสนามเฉลี่ย 38,181 คน ในฤดูกาล 2018–19[8] เป็นรองแค่ บุนเดิสลีกา ซึ่งมีผู้ชมในสนามเฉลี่ยที่ 43,500 คน[9] และมีผู้ชมในสนามสะสมในทุกนัดการแข่งขันที่ 14,508,981 คน ซึ่งสูงที่สุดมากกว่าลีกอื่น ๆ[10] โดยเกือบทุกสนามมีผู้ชมเกือบเต็มความจุของสนาม[11] พรีเมียร์ลีกมีค่าสัมประสิทธิ์ยูฟ่าเป็นอันดับที่สอง เป็นรองแค่ ลาลิกา โดยค่าสัมประสิทธิ์ยูฟ่านั้นคือการนำผลงานการแข่งขันในยุโรปจำนวนห้าฤดูกาลก่อนมาคำนวณ [12]
มี 49 สโมสรที่เคยแข่งขันในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1992 โดยแบ่งเป็นสโมสรจากอังกฤษ 47 สโมสรและสโมสรจากเวลส์ 2 สโมสร มี 7 สโมสรจากทั้งหมดที่ชนะเลิศพรีเมียร์ลีก ได้แก่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (13), เชลซี (5), แมนเชสเตอร์ซิตี (5), อาร์เซนอล (3), แบล็กเบิร์นโรเวอส์ (1), เลสเตอร์ซิตี (1), ลิเวอร์พูล (1)[13] สถิติคะแนนสูงสุดในพรีเมียร์ลีกคือ 100 คะแนน ทำโดยแมนเชสเตอร์ซิตีเมื่อ ฤดูกาล 2017–18
การแข่งขัน

มีสโมสรร่วมกันแข่งขันในพรีเมียร์ลีก 20 ทีม ในช่วงระหว่างฤดูกาล (ตั้งแต่สิงหาคมถึงพฤษภาคม) โดยแต่ละทีมจะพบกันหมด เหย้าและเยือน ทีมชนะได้ 3 คะแนน ทีมเสมอได้ 1 คะแนน และทีมแพ้ไม่ได้คะแนน ตลอดฤดูกาลทุกทีมจะต้องแข่งขันทั้งสิ้น 38 นัด ทีมจะถูกจัดอันดับโดยเรียงจาก คะแนน, ผลประตูได้เสียและผลประตูรวม หากยังคงเท่ากันทีมจะถือว่าครองตำแหน่งเดียวกัน หากมีการเสมอกันในการตกชั้นสู่การแข่งขันลีกแชมเปียนชิป หรือ การคัดเลือกไปยังการแข่งขันอื่น ๆ จำเป็นต้องมีการแข่งขันเพลย์ออฟที่สนามกลางเพื่อตัดสินอันดับ

รุดเต็งหามบอสใหม่PSV

ฟานรุดเต็งหามบอสใหม่PSV

มีระบบการเลื่อนชั้นและการตกชั้น ระหว่าง พรีเมียร์ลีก และ อีเอฟแอลแชมเปียนชิป โดยสามทีมที่ได้อันดับต่ำสุดในพรีเมียร์ลีก จะต้องตกชั้นไปเล่นใน แชมเปียนชิป และ ทีมที่อันดับสูงที่สุดสองทีมในแชมเปียนชิปจะเลื่อนชั้นไป พรีเมียร์ลีก[20] พร้อมกับอีกหนึ่งทีมที่มาจากการชนะเลิศในการแข่งขันเพลย์-ออฟระหว่างอันดับที่ 3, 4, 5 และ 6  แต่เดิมพรีเมียร์ลีกมี 22 ทีมตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1992 แต่ลดลงเหลือ 20 ทีม เมื่อปี ค.ศ. 1995  แทงบอลออนไลน์ 

การคัดเลือกไปยังการแข่งขันอื่น
4 ทีมที่อันดับดีสุดจะได้ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยสี่ทีมอันดับแรกจะผ่านเข้าไปรอในรอบแบ่งกลุ่ม (ทีมชนะเลิศได้อยู่โถ 1) ส่วนอันดับ 5 จะได้เล่นยูฟ่ายูโรปาลีก (ยูฟ่า คัพ เดิม) และทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลถ้วยภายในประเทศก็จะได้สิทธิ์ไปเล่นในยูโรปาลีก โดยอัตโนมัติเช่นกัน ส่วนทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลอีเอฟแอลคัพก็จะได้สิทธิ์ไปเล่นในยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก โดยอัตโนมัติเช่นกัน ในกรณีที่ทีมอันดับ 1-4 ชนะการแข่งขันฟุตบอลถ้วยภายในประเทศและชนะการแข่งขันฟุตบอลลีกคัพ สิทธิ์การแข่งยูโรปาลีก จะได้แก่อันดับ 5 และ 6 ของพรีเมียร์ลีกแทน และสิทธิ์การแข่งคอนเฟอเรนซ์ลีก จะได้แก่อันดับ 7 ของพรีเมียร์ลีกแทน แทงบอล 
ทีมพรีเมียร์ลีกที่ได้สิทธิไปแข่งฟุตบอลยุโรป มีเงื่อนไขดังนี้
แชมป์พรีเมียร์ลีก : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในรอบแบ่งกลุ่มและได้อยู่โถ 1
รองแชมป์พรีเมียร์ลีก : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในรอบแบ่งกลุ่ม
อันดับที่ 3 : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในรอบแบ่งกลุ่ม
แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในรอบแบ่งกลุ่มและได้อยู่โถ 1
แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในรอบแบ่งกลุ่ม
อันดับที่ 4 : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในรอบแบ่งกลุ่ม
แชมป์เอฟเอคัพ : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีกในรอบแบ่งกลุ่ม
อันดับที่ 5 : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีกในรอบแบ่งกลุ่ม
แชมป์อีเอฟแอลคัพ : ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกในรอบเพลย์ออฟ