ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์อีกกี่ใบ

ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์อีกกี่ใบ

วิเคาระห์บอล ถึงขณะนี้ ลิเวอร์พูล ยังมีโอกาสเหมาแชมป์ทั้งสี่รายการในซีซั่นนี้ไปครอบครองแต่เพียงผู้เดียวหลังบุกไปเฉือนเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ทะลุเข้ารอบตัดเชือกถ้วย เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ
    อย่างไรก็ดี หงส์แดง ประสบกับขวากหนามสำคัญเนื่องจากถูกจับฉลากให้ปะทะกับ แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลถ้วยน็อคเอาท์โดยทีม เรือใบสีฟ้า ก็เป็นคู่แข่งสำคัญของทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ต่อการพยายามเก็บแต้มแซงหน้าคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีเช่นกัน
    ต่อโอกาสการซิวแชมป์ทั้งสี่รายการของทีมจาก แอนฟิลด์ ซึ่งได้โทรฟี่ คาราบาวคัพ ไปครองแล้วหนึ่งใบ ล่าสุด สกาย เบต กำหนดอัตราต่อรองล่าสุดออกมาแล้วว่าสุดท้ายแล้ว เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันจะพาทีม เครื่องจักรสีแดง ประสบความสำเร็จในอีกสามรายการที่เหลือมากน้อยแค่ไหน
    จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ลิเวอร์พูล เข้าถึงรอบแปดทีมถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก โดยมี เบนฟิก้า เป็นคู่ต่อกร และรอเล่นกับ แมนฯ ซิตี้ ในรอบตัดเชือกถ้วย เอฟเอคัพ อีกทั้งขยับไล่ตาม เรือใบสีฟ้า แค่แต้มเดียวแล้วหลังลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 29 นัดเท่ากับทีมจ่าฝูงโดยทั้งสองทีมมีคิวฟัดกันเองโดยตรงด้วยที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 10 เม.ย.
    ต่อเกมบุกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ สกาย เบต ระบุออกมาว่าโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะได้สามแต้มเต็มมีอยู่ 28% ซึ่งหมายความว่า เรือใบสีฟ้า ยังรั้งตำแหน่งเต็งแชมป์เช่นเดิมเนื่องจากผลเสมอจะยังเป็นประโยชน์สำหรับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มากกว่า
    สำหรับศึก แชมเปี้ยนส์ลีก หงส์แดง ถูกมองว่าโชคดีมหันต์ที่ได้บู๊กับทีมจากโปรตุเกสซึ่งถูกชี้ว่าเป็นเพียงทีมไม้ประดับของถ้วยใบนี้ และทำให้ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ถูกประเมินว่าจะเข้ารอบตัดเชือกได้สูงถึง 90%
    สุดท้ายในรายการ เอฟเอคัพ หงส์แดง ได้รับการตีค่าว่าจะเอาชนะ เรือใบสีฟ้า ได้ 45% แต่แน่นอนว่าไม่ว่าทีมไหนมีชัย พวกเขาก็จะผงาดเป็นเต็งแชมป์ถ้วยน็อคเอาท์อย่างแน่นอน
สรุปอัตราต่อรองการคว้าแชมป์ในอีกสามรายการที่เหลือของลิเวอร์พูล  ดูบอลสด 
ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ 7-1 (แทง1ได้7ไม่รวมทุน)
ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก 7-1
ได้แชมป์ เอฟเอคัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก 7-1
ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก , เอฟเอคัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก 20-1

ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์อีกกี่ใบ

ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์อีกกี่ใบ

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (อังกฤษ: Liverpool Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพตั้งอยู่ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ แข่งขันอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สำหรับการแข่งขันภายในประเทศ ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีกสูงสุด 19 สมัย, เอฟเอคัพ 7 สมัย, ลีกคัพ 9 สมัย และเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 15 สมัย ส่วนการแข่งขันระดับนานาชาติ ลิเวอร์พูลชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 6 สมัย, ยูฟ่าคัพ 3 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 4 สมัย (ซึ่งทั้งสามรายการเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรอังกฤษ) และฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 1 สมัย ทายผลบอล 
สโมสรก่อตั้งใน ค.ศ. 1892 และได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกในปีต่อมา ลิเวอร์พูลใช้สนามแอนฟีลด์ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ถึงคริสต์ทศวรรษ 1980 เมื่อบิลล์ แชงคลี, บ๊อบ เพสลีย์, โจ เฟแกนและเคนนี แดลกลีช พาทีมชนะเลิศลีกสูงสุด 11 สมัยและยูโรเปียนคัพ 4 ใบ ต่อมาลิเวอร์พูลชนะเลิศการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนลีกอีก 2 สมัย ภายใต้การคุมทีมของราฟาเอล เบนิเตซและเยือร์เกิน คล็อพตามลำดับ ซึ่งคล็อพสามารถนำทีมชนะเลิศลีกสูงสุดในฤดูกาล 2019–20 นับเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดสมัยที่ 19 และสมัยแรกของยุคพรีเมียร์ลีก โดยเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี
ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ลิเวอร์พูลมีสโมสรคู่แข่งซึ่งแข่งขันด้วยกันมาอย่างยาวนาน ได้แก่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและเอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูลใช้เสื้อสีแดงและกางเกงขาสั้นสีขาวเป็นชุดแข่งขันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1896 ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มตัวเมื่อเล่นเป็นทีมเหย้าตั้งแต่ ค.ศ. 1964 เป็นต้นมา ฉายาในภาษาอังกฤษของลิเวอร์พูลคือ “เดอะเรดส์” (The Reds) ส่วนฉายาที่ชาวไทยนิยมเรียกคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลมีเพลงประจำสโมสรคือ “ยูลล์เนฟเวอร์วอล์กอะโลน” (You’ll Never Walk Alone)
ผู้สนับสนุนของสโมสรได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมที่สำคัญ 2 ครั้ง ได้แก่ ภัยพิบัติสนามกีฬาเฮย์เซลที่กำแพงพังลงมาทับผู้สนับสนุนในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพ 1985 ที่บรัสเซลส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาลีและผู้สนับสนุนยูเวนตุส หลังจากนั้นยูฟ่าได้ระงับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปของสโมสรจากอังกฤษเป็นระยะเวลา 5 ปี และภัยพิบัติฮิลส์โบโรใน ค.ศ. 1989 เมื่อผู้สนับสนุนของลิเวอร์พูล 96 คนเสียชีวิตจากการถูกบีบอัดติดกับรั้วที่กั้นสนาม นำไปสู่การยกเลิกรั้วกันสนามบริเวณที่ยืน โดยกำหนดให้สนามกีฬาของสโมสรในลีกสองระดับแรกของฟุตบอลอังกฤษต้องเป็นแบบมีที่นั่งทั้งหมด

การสนับสนุน ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์อีกกี่ใบ
ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งสโมสรที่ได้รับการสนับสนุนมากที่สุดในโลก[81][82] ลิเวอร์พูลแถลงว่ามีฐานผู้สนับสนุนทั่วโลก โดยมีผู้สนับสนุนสโมสรได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการมากกว่า 200 แห่งในอย่างน้อย 50 ประเทศ กลุ่มที่มีชื่อเสียง เช่น สปิริตออฟแชงคลี[83] สโมสรจะใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนนี้ผ่านการทัวร์ฤดูร้อนทั่วโลก[84] ซึ่งรวมถึงการลงเล่นต่อหน้าผู้ชมจำนวน 101,000 คนที่มิชิแกนในสหรัฐ และผู้ชมจำนวน 95,000 คนที่เมลเบิร์นในออสเตรเลีย[85][86] ผู้สนับสนุนของลิเวอร์พูลมักเรียกตัวเองว่าเป็น คอปิตส์ ซึ่งอ้างอิงถึงผู้สนับสนุนที่เคยยืนและนั่งบนอัฒจันทร์เดอะค็อปที่แอนฟีลด์[87] ใน ค.ศ. 2008 ผู้สนับสนุนของลิเวอร์พูลได้ก่อตั้งสโมสรชื่อว่า เอเอฟซี ลิเวอร์พูล ซึ่งลงเล่นในเกมการแข่งขันให้สำหรับผู้สนับสนุนที่ไม่มีเงินดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แทงบอล 
เพลง “ยูลล์เนฟเวอร์วอล์กอะโลน” แต่เดิมนั้นมาจากละครเพลงของรอดเจอร์สและแฮมเมอร์สไตน์ ชื่อว่า แคเรอแซล ซึ่งต่อมาเจอร์รีแอนด์เดอะพีชเมเกอร์สได้บันทึกเสียงใหม่จนกลายเป็นเพลงสรรเสริญของสโมสรที่ผู้ชมในแอนฟิลด์ร้องตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1960[89] ซึ่งต่อมาก็ได้รับความนิยมในหมู่ผู้สนับสนุนของของสโมสรอื่นทั่วโลก[90] ชื่อของเพลงถูกนำไปประดับบนประตูแชงคลี ซึ่งเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1982 เพื่อรำลึกถึงอดีตผู้จัดการทีม บิล แชงคลี คำว่า “You’ll Never Walk Alone” บนประตูแชงคลี ถูกนำไปใส่ไว้ด้านบนของตราสโมสร
ประตูแชงคลี สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับอดีตผู้จัดการทีม บิลล์ แชงคลี
ผู้สนับสนุนของสโมสรได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมที่สำคัญ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ ภัยพิบัติสนามกีฬาเฮย์เซลเมื่อ ค.ศ. 1985 ทำให้ผู้สนับสนุนยูเวนตุสเสียชีวิต 39 คน พวกเขาถูกขังอยู่ที่มุมหนึ่งโดยผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา น้ำหนักของผู้สนับสนุนที่อยู่มุมนั้นทำให้กำแพงพังลงมา ยูฟ่ากล่าวโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดของผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลแต่เพียงผู้เดียว[92] และระงับสิทธิ์สโมสรอังกฤษทั้งหมดจากการแข่งขันรายการฟุตบอลยุโรปเป็นเวลาห้าปี ลิเวอร์พูลได้รับโทษแบนเพิ่มเติมจนไม่สามารถเข้าร่วมยูโรเปียนคัพฤดูกาล 1990–91 แม้ว่าจะชนะเลิศลีกสูงสุดใน ค.ศ. 1990 ก็ตาม[93] ผู้สนับสนุนยี่สิบเจ็ดคนถูกจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาและถูกส่งตัวไปยังเบลเยียมเพื่อเข้าร่วมการพิจารณาคดีเมื่อ ค.ศ. 1987[94] ใน ค.ศ. 1989 หลังการพิจารณาคดีห้าเดือนในเบลเยียม ผู้สนับสนุนลิเวอร์พูล 14 คนได้รับโทษจำคุก 3 ปีจากความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา[95] โทษจำคุกกึ่งหนึ่งให้รอลงอาญา แทงบอลออนไลน์
ภัยพิบัติครั้งที่สองเกิดขึ้นในเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่างลิเวอร์พูลกับนอตทิงแฮมฟอเรสต์ที่สนามกีฬาฮิลส์โบโรในเชฟฟิลด์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1989 ผู้สนับสนุนลิเวอร์พูล 96 คน เสียชีวิตจากการที่ผู้ชมเข้ามาในอัฒจันทร์ฝั่งแลปปิงส์เลนเอ็น ซึ่งกลายเป็นที่รู้จักในชื่อภัยพิบัติฮิลส์โบโร วันต่อมา หนังสือพิมพ์ เดอะซัน ได้ตีพิมพ์บทความ “เดอะทรูธ” ซึ่งอ้างว่าแฟนลิเวอร์พูลได้ปล้นคนที่เสียชีวิตกับโจมตีและปัสสาวะใส่ตำรวจ[97] จากการสอบสวน ข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง นำไปสู่การคว่ำบาตรหนังสือพิมพ์ โดยผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลทั่วเมืองและที่อื่น ๆ หลายคนยังปฏิเสธที่จะซื้อ เดอะซัน แม้เวลาจะผ่านมาแล้ว 30 ปี[98] องค์กรสนับสนุนหลายแห่งได้ก่อตั้งขึ้นหลังเกิดภัยพิบัติ เช่น การรณรงค์เพื่อความยุติธรรมของฮิลส์โบโร ซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้รอดชีวิตและผู้สนับสนุนในความพยายามที่จะรักษาความยุติธรรม