ลิเวอร์พูล VS คริสตัล พาเลซ 1-1

บอลวันนี้ ลิเวอร์พูล VS คริสตัล พาเลซ 1-1 | ทัพหงส์แดง ยังคงหาชัยชนะในซีซั่นนี้ไม่เจอ หลังเป็นฝ่ายถูก ปราสาทเรือนแก้ว บุกนำไปก่อนจากลูกยิงของ วิลฟรีด ซาฮา ในครึ่งแรก จากนั้น ดาร์วิน นูนเญซ ก็ไปเล่นนอกเกม จนโดนไล่ออกไปอีก ทว่ายังดีที่มาได้ หลุยส์ ดิอาซ ช่วยยิงตีเจ๊า ทำให้จบเกมไปด้วยผลเสมอ 1-1 ดูบอลufa

 

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022/23 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2565 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 9 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โยนบอลจากฝั่งขวาให้ ดาร์วิน นูนเญซ ได้ยิงที่เสาสอง แต่บอลกลับหลุดกรอบออกไปแบบน่าผิดหวังนาที 23 หงส์แดง ได้ลุ้นอีกครั้ง เทรนต์ แทงบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แปบอลแบบไม่จับ แต่บอลก็หลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ลิเวอร์พูล VS คริสตัล พาเลซ 1-1

ถัดมา นาที 30 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางบอลเข้าเขตโทษ ซาลาห์ ได้ขึ้นโขก แต่บอลก็เบาและไปเข้ามือ บิเซนเต้ ไกวต้าGOAL!! แต่แล้ว นาที 32 กลายเป็นทีมเยือนที่ได้ประตูขึ้นนำ จากโอกาสลุ้นประตูครั้งแรก เอเบเรชี่ เอเซ่ แทงบอลทะลุช่องจากกลางสนามให้ วิลฟรีด ซาฮา หลุดเดี่ยว ก่อนแปบอลเสียบเสาไกลเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้ คริสตัล พาเลซ บุกนำ 1-0

 

นาที 38 วิลฟรีด ซาฮา ลองยิงจากนอกเขตโทษ แต่คราวนี้ อลีสซง เบ็คเกอร์ รับบอลได้ติดมือจากนั้น นาที 43 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เปิดบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ โหม่งเน้นๆ แต่ นายด่านทีมเยือน ก็ยังป้องกันไว้ได้ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 45+3 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสทอง เอลเลียตต์ ตักบอลเข้าเขตโทษ ดาร์วิน นูนเญซ พักอก แล้วได้ยิงจากระยะเผาขน แต่กลับโดนไม่ดี ทำให้บอลลอยไปชนเสาไกลอย่างน่าไม่น่าเชื่อ จบครึ่งเวลาแรก เป็น คริสตัล พาเลซ ที่นำ ลิเวอร์พูล อยู่ 1-0

 

RED CARD!! กระทั่ง ครึ่งหลัง นาที 57 สถานการณ์ของ หงส์แดง ก็ยิ่งแย่ลงไปอีก หลัง ดาร์วิน นูนเญซ ไปเล่นนอกเกม เอาศรีษะโขกใส่ โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบแดง ไล่ นูนเญซ ออกจากสนามไปGOAL!! แต่ทว่า นาที 61 เจ้าบ้านก็ไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จ หลุยส์ ดิอาซ โยกหาจังหวะสับไกยิงด้วยขวา จากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าประตูไปแบบหมดจด ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

 

นาที 78 วิลฟรีด ซาฮา ได้โอกาสพุ่งชาร์จลูกเปิดจากระยะไม่กี่หลา แต่คุมทิศทางไม่ได้ ทำให้บอลไม่ตรงกรอบต่อมา นาที 87 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลได้ ก่อนซัดจากหน้าเขตโทษ ทว่าบอลหลุดเสาออกไปเพียงนิดเดียวเท่านั้นนาที 90 ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ วอลเลย์เต็มข้อ ตรงกลางเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

 

แล้วก็หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ที่เหลือผู้เล่น 10 คน เปิดบ้านเจ๊ากับ คริสตัล พาเลซ ไปด้วยสกอร์ 1-1 ต้องแบ่งกันไปทีมละแต้ม ส่งผลให้ หงส์แดง แข่ง 2 นัด มี 2 แต้ม ขยับรั้งอันดับ 12 ของตาราง ส่วน ปราสาทเรือนแก้ว มี 1 แต้ม ขึ้นมาอยู่อันดับ 16

 

เกมรุกเอียงขวาประสานกันงานกันสนุกในช่วงต้น

ลิเวอร์พูล VS คริสตัล พาเลซ 1-1

ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครอบครองเกมอยู่เพียงฝ่ายเดียวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาเดินหน้าสร้างโอกาสโจมตีใส่ทีมเยือนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่จังหวะสุดท้ายที่ขาดๆ เกินๆ ไปเล็กน้อยทำให้ไม่อาจส่งบอลสู่ก้นตาข่าย คริสตัล พาเลซ ได้เกมข้างเดียวที่

แอนฟิลด์ แตกต่างถึงขนาดที่ คริสตัล พาเลซ ไม่สามารถเคลื่อนบอลไปในกรอบเขตโทษของ ลิเวอร์พูล ได้เลยใน 25 นาทีแรกของเกมชนิดที่สถิติในการสัมผัสบอลของ พาเลซ ในเขตโทษ หงส์แดง เป็น 0 ครั้งผลของการพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ทีมเยือนตั้งรับลึกทำให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดดเด่นกับการขึ้นเกม วางบอลจากทั้งริมเส้นและแนวลึกสู่พื้นที่อันตราย สร้างโอกาสให้เพื่อนทำประตูครั้งแล้วครั้งเล่า

 

สมดุลแดนกลาง เอลเลียตต์-ฟาบินโญ-มิลเนอร์

เยอร์เก้น คล็อปป์ ไว้วางใจส่ง ฮาร์วีย์ เอลเลียต์ ลงประสานงานคู่กับ ฟาบินโญ และ เจมส์ มิลเนอร์ ที่แดนกลาง กลายเป็นส่วนผสมที่ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่งเมื่อดวลกับคู่แข่งอย่าง พาเลซ มิดฟิลด์ทีมชาติ บราซิล ปักหลักคัดท้ายในบทบาทโฮลดิ้งมิดฟิลด์โดยมี เจมส์ มิลเนอร์ เติมความดุดันทั้งในการไล่บีบพื้นที่และทะยานเติมขึ้นไปมีส่วนร่วมในพื้นที่อันตราย

ลิเวอร์พูล VS คริสตัล พาเลซ 1-1

ขณะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ วูบวาบกับการเคลื่อนเติมไปยังพื้นที่สุดท้ายและใช้ทักษะการไปกับบอลสร้างปัญหาให้กับแนวรับของ พาเลซแต่สิ่งที่มิดฟิลด์ทั้ง 3 ดูจะขาดหายไปสักเล็กน้อยคือวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลสู่พื้นที่สุดท้ายอย่างที่ ติอาโก้ อัลคันทารา เคยทำได้กับทีมโดยความหวือหวาของ เอลเลียตต์ ในช่วงต้นค่อยๆ หายไปจากเกมเมื่อเวลาผ่านไป

 

ปัญหาความเด็ดขาดของ นูนเญซ และการเสียท่าถูกใบแดง ลิเวอร์พูล VS คริสตัล พาเลซ 1-1

ส่วนสูง ความแข็งแกร่ง และความคล่องตัวของ ดาร์วิน นูนเญซ เป็นทางเลือกให้รูปแบบการโจมตีของ ลิเวอร์พูล หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด บอลไดเร็กต์ชนิดที่ให้ นูนเญซ ไล่ตามเก็บที่แดนบนมีให้เห็นเยอะขึ้นเช่นเดียวกับความพยายามครอสบอลให้ดาวยิงทีมชาติ อุรุกวัย ทะยานโฉบเข้าหาบอลเพื่อจบสกอร์

แต่สิ่งที่ยังคงเป็นปัญหาสำหรับแข้งวัย 23 ปีความเด็ดขาดในการจบสกอร์จังหวะสุดท้าย ความพยายามของ นูนเญซ ยังขาดๆ เกินๆ ในหลายครั้งส่งผลให้บอลออกจากเท้าของเจ้าตัวไม่ได้ลุ้นแม้ว่าเพื่อนร่วมทีมจะสร้างโอกาสถวายพานให้กับเขาครั้งแล้วครั้งเล่าผลงานส่วนตัวที่ว่าไม่น่าพอใจนักถูกยกระดับความเลวร้ายด้วยใบแดงชนิดเสียค่าโง่เมื่อเจ้าตัวเสียเหลี่ยมให้กับ โจอาคิม แอนเดอร์เซน ถูกยั่วโมโหจนตบะแตกเฮดบัตต์ใส่ปราการหลังทีมชาติ เดนมาร์ก ได้รับใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามในที่สุด

 

ไลน์แนวรับลอยสูงและคู่ดวลกันระหว่าง ซาฮา vs ฟิลลิปส์

ปาทริค วิเอรา วางแท็คติกในเกมนี้ด้วยรูปแบบ 5-4-1 จับเอา วิลฟรีด ซาฮา ปักหลักเป็นกองหน้าตัวเป้ารอโอกาสในการสวนกลับเร็ว ใช้ความเร็วโจมตี แนท ฟิลลิปส์ โดยตรงซาฮา แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวและสปีดต้นที่สามารถเล่นงาน ฟิลลิปส์ ให้เห็นในช่วงต้นก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนชิงจังหวะ เอาชนะปราการหลังวัย 25 ปีสำเร็จหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไม่พลาดเป็นประตูขึ้นนำ 1-0กองหน้าทีมชาติ ไอวอรี โคสต์ ยังคงสร้างปัญหาให้กับ ฟิลลิปส์ หลังจากนั้นและนับว่าเป็นโชคดีของ ลิเวอร์พูล ที่ ซาฮา สามารถมีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้เพียงครั้งเดียว รีวิว ข่าวฟุตบอล