หงส์แดงพร้อมสูบฉีดเลือดใหม่นิวโมดริชจากซัลซ์บวร์ก

 

หงส์แดงพร้อมสูบฉีดเลือดใหม่นิวโมดริชจากซัลซ์บวร์ก

 

วิเคราหะ์บอล สโมสร ลิเวอร์พูล เตรียมเสริมความสดให้แดนกลางแทนน้าๆที่วัยวุฒิเริ่มเข้าหลัก 30+ โดยเป้าหมายในใจคือ ลูก้า ซูซิช แห่ง เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ซึ่งถูกขนานนามว่า ลูก้า โมดริช คนใหม่
 รายงานจาก ‘ลิเวอร์พูล ดอทคอม’ ว่าปัจจุบันขุมกำลังแดนกลาง ‘หงส์แดง’ชุดตัวจริงอย่าง ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ไม่มีใครวัยวุฒิต่ำกว่า 28 ปี ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ รองกัปตันจ่อหมดสัญญา
 แม้ปัจจุบันในทีมมีการเตรียมเลือดใหม่เพื่อผลักดันใช้งานทั้ง เคอร์ติส โจนส์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ หรือ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ แต่ดูเหมือนยังไม่เพียงพอ จึงสอดส่องเพิ่มกระทั่งเข้าตา ซูริช
 เจ้าหนุ่มวัย 19 ปีสัญชาติโครแอตก้าวมาสร้างผลงานเด่นฤดูกาลนี้ลงสนาม 37 นัดทำไป 7 ประตูและสามแอสซิสต์ เป็นผู้เล่นแบบที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ โปรดปรานคือครบเครื่องรุก-รับ ดูบอลสด

หงส์แดงพร้อมสูบฉีดเลือดใหม่นิวโมดริชจากซัลซ์บวร์ก

หงส์แดงพร้อมสูบฉีดเลือดใหม่นิวโมดริชจากซัลซ์บวร์ก

 ไม่ว่าเป็นการปั้นโอกาสจบสกอร์ 2.98 ครั้ง-ต่อ-การลงสนาม 90 นาที ตามสถิติรายการ ชปล. หรือจะเป็นการวิ่งเพรสซิ่งคู่แข่ง 21.05 ครั้ง-ต่อ-90 นาทีเช่นกัน ทายผลบอล 
 “ผมติดตามวิธีการเล่นของ โมดริช รวมถึงติดตามบันทึกการเคลื่อนที่ของแก ยกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีสุดของโลก” ซูซิช กล่าวกับ ‘สโลบ็อดน่า ดัลมาซิย่า’ สื่อฯโครแอต
 “ทั้งนี้ส่วนตัวผมเล่นได้ทุกตำแหน่งแดนกลาง ไม่ว่ากลางรุก, กองกลางตัวรับ เคยมาแล้วหมด”
 สัญญาปัจจุบัน ซูซิช มีถึง มิ.ย. 2025 ราคาประเมิน 11.3 ล้านปอนด์ หากตบเท้าสู่แอนฟิลด์จริงๆจะเป็นศิษย์เก่า ซัลซ์บวร์ก รายที่ 4 ต่อจาก ซาดิโอ มาเน่, นาบี เกอิต้า และ ทาคุมิ มินามิโนะ
สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งขึ้นวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1892 โดย John Houlding ซึ่งนักธุรกิจท้องถิ่น และว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล เขาเริ่มจากการเช่าพื้นที่บริเวณถนนแอนฟิลด์ ของเมืองลิเวอร์ุัพูลเพื่อสร้างสนามฟุตบอล และได้ปล่อยให้ทางสโมสรเอฟเวอร์ตันเช่าในปีค.ศ. 1884 จนกระทั่งเอฟเวอร์ตันเข้าเป็นสมาชิิกฟุตบอลลีก และไม่ต่อสัญญาเช่าอีกในปีค.ศ. 1892 เนื่องจากเขาต้องการขึ้นค่าเช่าสนามจาก 100 ปอนด์ เป็น 250 ปอนด์ต่อปี และพยายามจะเข้าบริหารงาน ของสโมสร ทางเอฟเวอตันจึงตัดสินใจย้ายไปใช้สนามอีกฝากของสวนสาธารณะสแตนลี่ย์พาร์ค และใช้ชื่อสนามว่า กูดิสัน พาร์ค มาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อสนามไม่ได้ใช้ประโยชน์ John Houlding จึงจัดตั้งทีมฟุตบอลของเขาขึ้นมาเองโดยให้เพื่อนสนิทอย่าง John McKenna มาเป็นประธานสโมสรและตั้งชื่อทีมว่าลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับอย่างในปัจจุบัน

การเริ่มต้นอย่างสง่างาม

หงส์แดงพร้อมสูบฉีดเลือดใหม่นิวโมดริชจากซัลซ์บวร์ก

หลังจากตั้งสโมสรก่อตั้งขึ้นมาไม่นาน ลิเวอร์พูลก็โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอด โดยประเดิมสนามนัดแรกด้วยการเอาชนะทีม Rotherham Town ไปถึง 7-1 อีกทั้งการแข่งขันฟุตบอลลีก ของแคว้นแลงคาเชียร์ ซึ่งสามารถเอาชนะทีม Higher Walton ด้วยสกอร์ 8-0 ที่สนามแอนฟิลด์ โดยลิเวอร์พูลลงแข่งทั้งหมด 22 นัด ชนะถึง 17 นัด และได้แชมป์ไปครอง ส่งผลให้ทางสโมสรสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีก โดยให้ลงเล่นในดีวิชั่น 2 ก่อน ในฤดูกาล 1893-1894 ซึ่งสโมสรสามารถเก็บชัยชนะได้แบบ 100% (ทั้งหมด 28 นัด) แต่การคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ในตอนนั้นยังไม่ได้เลื่อนชั้นโดยทันที ต้องไปแข่งนัดชิงดำกับทีมอันดับสองก่อน โดยทีมอันดับสองในขณะนั้นคือ ทีมนิวตัน ฮีธ หรือก็คือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน ซึ่งลิเวอร์พูลก็เอาชนะไปได้ 2-0 และได้เลื่อนขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้ในที่สุด ทั้งนี้สโมสรได้เลือกสัญลักษณ์เป็นนกลิเวอร์เบิร์ด ซึ่งเป็นนกแถบทะเลไอริช บริเวญแม่น้ำเมอร์ซี่ โดยที่ปากนกนั้นคาบใบไม้ไว้ แทงบอล 

บิล แชงค์ลี่ย์

ในช่วงศตวรรษที่ 20-50 ลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมที่ยิ่งใหญ่อย่างที่คาดไว้ เพราะทีมยังต้องขึ้นๆ ลงๆ อยู่เป็นประจำระหว่างดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 จนในปีค.ศ. 1954 ลิเวอร์พูลต้องลงไปเล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 นานกว่าปกติและก็ยังไม่มีผู้จัดการคนไหนสามารถพาทีมกลับขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ได้สักที จนเมื่อชายที่ชื่อว่า บิลล์ แชงค์ลี่ย์ เข้ามาคุมทีมได้เพียง 2 ฤดูกาล เขาก็พาทีมขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ในฐานะแชมป์ของดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จในปีค.ศ. 1962 ซึ่งแชงค์ลี่ย์มีปรัชญาการคุมทีมอย่างง่ายๆ คือ ฟุตบอลแบบพื้นๆ แต่เน้นการส่ง และรับบอล อย่างแม่นยำ เล่นกันเป็นทีมมากกว่า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทีมลิเวอร์พูลมาจวบจนปัจจุบัน
บ็อบ เพสลี่ย์ ผู้สืบทอดของแชงค์ลี่ย์
แต่หลังจากอังกฤษคว้าแชมป์โลก บิลล์ แชงค์ลี่ย์ ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งในปี 1973 หลังจากพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพได้ในปี 1972 โดยมีบ๊อบ เพสลี่ย์ มีขวาของเขามารับช่วงต่อแทน และบ๊อบใช้เวลาเพียง 4 ปี ในการพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ และในปีต่อมาเขาก็พาลิเวอร์พูลประกาศความยิ่งใหญ่อีกครั้งเมื่อพาทีมคว้าดับ เบิ้ลแชมป์ จากดิวิชั่น 1 และยูโรเปี้ยน คัพ มาครอง อีกทั้งยังคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพมาได้อีก 2 ครั้งในปี 1981 และ 1984 ก่อนที่บ็อบ เพสลีย์จะลาออกจากตำแหน่ง
จาก โจ ฟาแกน ถึง คิง เคนนี่
โจ เฟแกน คือผู้จัดการทีมต่อจากบ็อบ เพสลี่ย์ ซึ่งในการคุมทีมของเขาได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น มีผู้เสียชีวิต 39 คนจากการที่ทีมลิเวอร์พูลแพ้ทีมยูเวนตุส 1-0 จากลูกจุดโทษ ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ ที่สนามเฮย์เซล สเตเดี้ยม ในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
ซึ่งทำให้เฟแกนตัดสินใจลาออกจากการคุมทีม ทำให้เคนนี่ ดัลกลิช ผู้เล่นที่ก้าวมาเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของสโมสร และเขาก็พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ตั้งแต่การคุมทีมปีแรก
ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง
หลังจากในปี 1990 หรือตั้งแต่ดัลกลิช ทนรับความเครียดจากเหตุการณ์เศร้าสลดที่ สนามฮิลส์โบโร่ ได้จึงลาออกจากการคุมทีม จากนั้นมาลิเวอร์พูลก็ไม่ประสบความสำเร็จในลีกสูงสุดอีกเลยไม่ว่าจะเป็นยุค ของแกรม ซูเนส, รอย อีแวนส์, หรือเชรา อุลลิเยร แม้ว่าอุลลิเยร์จะสามารถคว้าทริปเปิลแชมป์ ในปี 2001 คือ League Cup, UEFA Cup และFA Cupัพ แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่ความสำเร็จที่แฟนบอลรอคอยนัก มีดวามเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นในทีม ทั้งวิธีการซื้อนักเตะ รูปแบบการเล่น ซึ่งนั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลประสบปัญหาในเรื่องฟอร์ม การเล่น
การปฏิรูปครั้งใหญ่ของบินิเตส
ราฟาเอล เบนิเตส ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่แฟนๆ หงส์แดงฝากความหวังไว้มากทีเดียว เขาผ่าตัดทีมลิเวอร์พูลครั้งใหญ่ พร้อมทั้งนำทั้งสต๊าฟและผู้เล่นชาวสเปนเข้ามาเสริมทีมหลายคน แม้ผลงานในลีกอังกฤษจะไม่ดีอย่างที่แฟนๆคาดไว้ แต่ผลงานของทีมในระดับประเทศยุโรปนั้นดีมากๆ จากการที่เขานำทีมคว้าแชมป์ UEFA Champions League และในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาก็นำทีมคว้าแชมป์ FA Cup 2006 ได้อีกด้วย แถมทีมก็อยู่ในอันดับ 3 ของลีกอีกต่างหาก ส่วนในฤดูกาลนี้จะสามารถคว้าเอาแชมป์พรีเมียร์ชิพแรกของทีมได้หรือไม่. แทงบอลออนไลน์