เป๊ปอัพเดทสโตนส์เจ็บ ชมเฟร์นานฯ สอบผ่านเล่นแก้ขัดไปก่อน

 

เป๊ปอัพเดทสโตนส์เจ็บ ชมเฟร์นานฯ สอบผ่านเล่นแก้ขัดไปก่อน

ข่าวฟุตบอล โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผจก.ทีม แมนฯ ซิตี้ พูดถึงอาการเจ็บของ จอห์น สโตนส์ เซนเตอร์แบ็กที่โดนจับลงแบ็กขวาตัวจริงเกมชปล.รอบรองฯนัดแรกเชือด เรอัล มาดริด 4-3 วานนี้ว่าคือบริเวณกล้ามเนื้อหลังเข่าจุดเดิม ขณะที่ แฟร์นานดินโญ่ ซึ่งช่วยขัดตาทัพตลอดหนึ่งชั่วโมงหลังนั้นเขาให้สอบผ่าน
 ซิตี้ เขียมแบ็กขวาเพราะ ไคล์ วอล์คเกอร์ ยังบาดเจ็บข้อเท้า ขณะที่ ชูเอา กานเซโล่ ติดโทษแบน ทำให้ เป๊ป ต้องใช้ สโตนส์ ซึ่งแทบไม่ได้ซ้อมเลยนับจากเกมพบ ไบรท์ตัน แล้วเจ็บกล้ามเนื้อหลังเข่าลงเป็นตัวจริง
 ทว่าดาวเตะผู้ดีแข่งเพียง 35 นาทีก็ไม่ไหวต้องให้ แฟร์นานดินโญ่ เล่นแทน แม้ทำหนึ่งแอสซิสต์ แต่ภาพรวมเกมป้องกันรั่วมากถูก วินิซิอุส Jr. เผากระจุย  ดูบอลสด 
 ทั้งนี้ในมุมคนทำทีมกุนซือวัย 51 ปีกลับซาบซึ้งความเสียสะของ 2 คนนั้นที่รายหนึ่งคือเซนเตอร์แบ็ก, รายหนึ่งคือกองกลางตัวรับแล้วต้องขัดตาทัพตำแหน่งไม่ถนัด

เป๊ปอัพเดทสโตนส์เจ็บ ชมเฟร์นานฯ สอบผ่านเล่นแก้ขัดไปก่อน

เป๊ปอัพเดทสโตนส์เจ็บ ชมเฟร์นานฯ สอบผ่านเล่นแก้ขัดไปก่อน

 “จอห์น ต้องปรับตัวกับตำแหน่งนั้นที่ไม่ใช่พื้นที่หากิน แถมเผชิญตัวประกบหิน” การเปิดปากกับ ‘แมนเชสเตอร์ อีฟวีนิ่ง นิวส์’
 “ที่ผมส่งเขาออกสตาร์ตเพราะการซ้อมวันอังคารหมอนั่นอาการเจ็บกล้ามเนื้อหลังเข่ารู้สึกดีแล้ว, ไคล์ ยังไม่โอเค ก็เรียกมาคุยแล้วเจ้าตัวบอกพร้อม”
 “ต้องขอบคุณพวกเขาทั้งสองคน สำหรับความกระตือรือร้นของ จอห์น และ ‘แฟร์นาน’ผู้เคยเล่นตำแหน่งแบ็กขวาหนเดียวใต้เครื่องแบบ แมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่ผมกุมบังเหียน – เมื่อคืนคือหนที่สอง”
 “มันไม่ง่ายที่จะรับมือผู้เล่นโดดเด้งอย่าง วินิซิอุส Jr. แต่แกก็ทำสุดความสามารถ ผมทราบว่า ‘แฟร์นาน’ จะเล่นได้ดี”  ทายผลบอล 

ชีวประวัติ และ ชีวิตในอดิต ของ โจเซป กวาร์ดิโอล่

เป๊ปอัพเดทสโตนส์เจ็บ ชมเฟร์นานฯ สอบผ่านเล่นแก้ขัดไปก่อน

 ย้อนไปเมื่อปี 2017 แฟร์นานดินโญ่ ถูกส่งเล่นแบ็กขวาเกมดวล สวอนซี เป็นครั้งแรกยุค เป๊ป แล้วนัดต่อไปก็สลับเล่นแบ็กซ้ายเกมเจอ บอร์นมัธ
พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020-21 อาจจะยังไม่จบ แต่ดูเหมือนว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังร่ายเวทย์มนตร์ใส่ลูกทีมของเขาได้สำเร็จอีกครั้ง
หลายครั้งที่ทีมของเขาแพ้หรือไม่สามารถจบการแข่งขันด้วยการเป็นแชมป์ได้ มักจะมีคำค่อนขอดถึง เป๊ป ว่า “เก่งเพราะคุมทีมมีเงิน” …. แต่จริง ๆ ลึก ๆ เชื่อว่าทุกคนคงรู้ดีว่า “เขาเก่งขนาดไหน”
นี่คือเรื่องราวของอัจฉริยะด้านแท็คติกที่ไม่ได้ได้มาในค่ำคืน ที่หาคนทำซ้ำไม่ได้ ติดตามเรื่องราวกว่าจะถึงวันนี้ของ กวาร์ดิโอล่า ได้ที่นี่
เติบโตมาพร้อมกับความซับซ้อน
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นเหมือนกับน้ำเปล่าที่ไหลไปอยู่ในภาชนะไหนเขาก็จะปรับตัวได้เสมอนั่นเพราะเขามีพื้นฐานฟุตบอลที่แน่นปึ๊ก เขาอยู่กับ บาร์เซโลน่า ทีมที่เป็นศาสตร์และศิลป์ของฟุตบอลยุคใหม่ที่เจ้าตัวเป็นคนทำให้มันกระฉ่อนโลกขึ้นมา ความโดดเด่นของฟุตบอลบาร์เซโลน่าคือฟุตบอลเทคนิคและสวยงาม แต่ในยุคของ เป๊ป นั้นมันมีสิ่งที่เรียกว่าความยืดหยุ่นและหลากหลาย
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะความบังเอิญไม่มีจริงบนโลกนี้ เป๊ป เติบโตมากับศูนย์ฝึก ลา มาเซีย และปรัชญาฟุตบอลที่ง่ายๆแต่ซับซ้อนของ โยฮัน ครัฟฟ์ ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหัดเรียนรู้กับความซับซ้อนนั้นเกิดขึ้นตอนอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น
“เอาล่ะไอ้หนู เกมนี้แกจะลงเล่นในตำแหน่ง false winger นะ” ออริโอล ทอร์ต หัวหน้าทีมโค้ชของศูนย์ฝึก ลา มาเซีย บอกกับ เป๊ป ที่กำลังจะส่งลงสนามหลังทีมตามหลังในครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-1 …. ลองนึกภาพตัวคุณเองตอนอายุ 13 ปี และมีคนบอกว่าให้เล่นในตำแหน่ง “ปีกหลอก” แน่นอนว่ากว่า 99% นั้นงงแน่นอนแต่นั่นไม่ใช่กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คนนี้ และผู้ที่เป็นต้นแบบของเขาก็คือ ออริโอล ทอร์ต คนนี้นี่เอง
“เราพลิกกลับมาชนะ 3-1 ผมได้บอลมากกว่าใครในช่วงครึ่งหลัง” เป๊ป เขียนลงในอัตชีวประวัติของเขา My People, My Football “ตอนนั้นผมขยับแค่ 2-3 ก้าวผมก็สามารถเปลี่ยนจังหวะเกมที่ส่งผลกับรูปแบบการเล่นของทีมได้อย่างมาก ทอร์ต เป็นโค้ชที่รู้จักฟุตบอลยิ่งกว่าคนที่คิดมันขึ้นมาเสียอีก”
นี่คือ เป๊ป ตอนอายุ 13 ปี ทั้งๆที่ด้วยวัยขนาดนั้นเขาควรจะอยู่ในวัยที่ฝึกทักษะอย่างเดียว แต่ที่ ลา มาเซีย เขาได้เรียนรู้ศาสตร์ที่ลึกและล้ำสมัย ปัจจุบันนี้มันคือตำแหน่งของ ดาบิด ซิลบา ที่เล่นให้กับ แมนฯ ซิตี้ มันคือการรับผิดชอบแดนกลางไปพร้อมกับเชื่อมเกมกับริมเส้นฝั่งซ้ายนั่นเอง โลกฟุตบอลรู้จักแต่ 4-4-2,3-5-2 และ 4-3-3 มาอย่างยาวนาน แต่เขาเรียนรู้ศาสตร์เชิงลึกว่าด้วยแท็คติกที่ยืดหยุ่นมากกว่าแค่ตัวเลขของตำแหน่งอย่างที่ใครรู้ ดังนั้นไม่ว่ากับยุคสมัยไหนเราจะได้เห็น เป๊ป ใช้งานนักเตะของเขาในตำแหน่งที่ชวนงงอยู่เสมอ ฟิลิปป์ ลาห์ม ขึ้นมาเล่นกองกลาง,ดาวิด อลาบา เล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ,ลิโอเนล เมสซี่ เล่นกองหน้าตัวเป้า หรือแม้กระทั่งการเอา แบร์นาโด้ ซิลวา ที่เล่นเป็นปีกธรรมชาติถอยลงมายืนเป็น 1 ใน 3 แผงมิดฟิลด์ของทีม แมนฯ ซิตี้ ชุดปัจจุบัน แม้จะมีการตัดสินใจที่แปลกในการจัดตัวและตำแหน่งผู้เล่น แต่ลงท้ายแล้วนักเตะทุกคนนำแชมป์มาให้กับเขาได้เสมอ และเป็นตำแหน่งที่เป็นเหมือนหัวใจของทีมทุกครั้งไป
ความซับซ้อนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะเข้าใจได้ง่ายๆ นักเตะระดับโลกหลายคนไม่สามารถรับมือกับการทำทีมของ เป๊ป ได้ที่สุดแล้วพวกเขาก็ย้ายออกไป อาทิ ยาย่า ตูเร่,ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ โจ ฮาร์ท ที่สำคัญคือ เป๊ป เองไม่เคยง้อใคร เป็นอีกครั้งที่ ลา มาเซีย คือเบื้องหลังของความเด็ดขาดนี้เพราะการโตมากับบอลระบบ และความสัมพันธ์ในทีมที่ต้องอาศัยคนทัศนคติดีเพื่อปรับจูนเข้าหากัน แม้ว่าอาจจะไม่ชิดเชื้อถึงขั้นเป็นครอบครัว แต่ทุกคนคือเพื่อนร่วมงานชั้นเยี่ยมชนิดมองตาก็รู้ใจ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมันง่ายนิดเดียวเพราะ เป๊ป “ไม่ได้แค่สั่ง” ลูกทีม แต่เขาจะคอยอธิบายว่า “ทำไมจึงต้องทำแบบนี้” เพราะหัวใจการคุมทีมของ เป๊ป คือการสื่อสาร
สมัยคุมที่ บาร์เซโลน่า ในระหว่างการซ้อม เป๊ป จะคอยแทรกและสั่งให้นักเตะหยุดซ้อมทันทีหากเขาเห็นสิ่งที่ผิดพลาดและสั่งให้ทำซ้ำจนกว่าจะตรงตามที่เขาต้องการ นอกจากนี้เมื่อการฝึกปกติจบลง เขาจะบอกนักเตะของเขาถึงสิ่งที่อยากให้แก้ไขในการซ้อมวันนี้ และบอกว่าเหตุใดเขาจึงไม่พอใจและสั่งการเช่นนั้น
“เป๊ป จะเข้ามาคอยแทรกตลอดเวลาเพื่อแก้ไขในสิ่งที่นักเตะผิดพลาด เขาจะเข้ามาอธิบายให้คุณเห็นภาพว่าเขาต้องการอะไรจากคุณ” เคราร์ด ปีเก้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟดีกรีแชมป์โลกกับทีมชาติสเปนกล่าวไว้เช่นนั้น
2 ชั่วโมงต่อ 1 วัน คือเวลาที่เป๊ปใช้อธิบายนักเตะแต่ละคน คนละนิดคนละหน่อย สิ่งนี้ติดตัวเขามาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ และเมื่อเป็นกุนซือเขาสามารถทำให้นักเตะในทีมเป็นนักเตะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้จากคำอธิบายของเขา ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ เยอโรม บัวเต็ง เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของ บาเยิร์น ที่กลายเป็น 1 ในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกสมัยที่ เป๊ป เป็นเจ้านายของเขา
เป๊ป เป็นคนบอกให้ บัวเต็ง ให้ความสำคัญกับเรื่องความคิดและการอ่านเกมให้มากขึ้นเพราะโดยธรรมชาติเขาเป็นนักเตะที่มีร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว ส่วนอีกรายคือ ฟิลิปป์ ลาห์ม ที่จะใช้เวลา 15 นาทีหลังการซ้อมนั่งคุยกับเป๊ป เหตุผลเพราะ ลาห์ม เองก็อยากจะเล่นกองกลางให้ลงกับระบบของ เป๊ป ให้ได้มากที่สุด และ ลาห์ม ก็ทำได้…
นิสัยของอัจฉริยะ
บุคลลิกและนิสัยคือสิ่งที่ซับซ้อนที่สุดในหากจะอธิบายถึงความแตกต่างของมนุษย์แต่ละคน สำหรับ เป๊ป แล้วเขาคือคนบ้าฟุตบอลของจริง ดานี อัลเวส บอกว่าอดีตเจ้านายของเขาสามารถคุยเรื่องฟุตบอลได้ทั้งวันและใส่ดอกจันตัวหนาๆว่า เป๊ป ทำมันราวกับไม่มีวันเบื่อแม้เขาจะพูดถึงเรื่องเดิมก็ตาม
Photo : dailyactive.info
มาเนล เอสเตียร์เต้ ผู้ช่วยส่วนตัวของ เป๊ป บอกว่า เป๊ป มีกฎ 1 ข้อที่สำคัญกับการเป็นโค้ชฟุตบอลของเขาเป็นอย่างมาก นั่นคือ “กฎ 32 นาที” และ 32 นาทีที่ว่านั้นคือเวลาที่นานที่สุดที่ เป๊ป คิดถึงเรื่องอื่นนออกจากเรื่องฟุตบอลได้ เพราะเมื่อเข้านาทีที่ 33 เรื่องฟุตบอลจะวกกลับเข้าสู่หัวสมองของเขาทันที กฎนี้ไม่ใช่กฎที่ตั้งชื่อขึ้นมาเท่ๆเท่านั้น มันคือเรื่องจริงกับชีวิต เป๊ป แม้ตอนที่เล่นกับลูกๆทั้ง 3 คนของเขาก็ตาม เมื่อถึงเวลาครึ่งชั่วโมง เขาจะปิดตัวเองและความคิดของเขาจะฟุ้งไปถึงเรื่องฟุตบอลทันที
“เป๊ป จะจ้องไปที่เพดานและทำปากมุบมิบพยักหน้าเหมือนกับทะเลาะกับความคิดของตัวเอง” เอสเตียร์เต้ อธิบายถึงสิ่งที่เขาสังเกตได้จากความใกล้ชิด
คิดเรื่องฟุตบอลในที่นี้ไม่ใช่แค่การคิดแต่เรื่องแท็คติกและรูปแบบการเล่นในสนามเท่านั้น ฟุตบอลในความหมายของ เป๊ป คือ “อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง” เขาเป็น เพอร์เฟ็คชั่นนิสต์ (ผู้เสพติดความสมบูรณ์แบบ) ถ้าเขาอยากได้อะไรเขาจะเอาให้ได้แม้จะดูเป็นไม้แข็งในการจัดการแต่เขาก็ต้องทำ
ตอนคุม บาเยิร์น มิวนิค ฤดูกาลแรก ในฐานะผู้มาใหม่กุนซือหลายคนอาจจะไม่กล้าพอที่จะแสดงพลังในระดับการปฎิวัติและทำลายธรรมชาติของนักเตะที่อยู่มาก่อน แต่ เป๊ป ฉุนขาดหลังจากเห็น ขนมเค้ก เป็นส่วนหนึ่งในไลน์บุฟเฟ่ต์ของนักเตะ  เขาเรียกนักโภชนาการของสโมสรเข้ามาคุยด้วยทันที จากนั้นระบบการกินอาหารของ บาเยิร์น ก็เปลี่ยนไป
ติดตามข่าวเพิ่มเติมได้ที่ แทงบอลออนไลน์ , แทงบอล